Tuesday, October 14, 2008

ฮุนเซน ออกทีวีด่าอีกรอบไทยยอมถอนทหาร


เจ้าหน้าที่กัมพูชากล่าวว่าฝ่ายไทยได้ยอมถอนทหารออกจากบริเวณ "ลานอินทรี" (Eagle Entry) แล้วเมื่อเวลาประมาณ 10:20 น. ก่อนจะถึง "เส้นตาย" เที่ยงวัน ที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ยื่นแก่ฝ่ายไทยเมื่อวันจันทร์ โดยสำทับว่าหากไม่ถอนทหารก็จะเกิดการปะทะด้วยอาวุธอย่างแน่นอน และที่นั่นจะเป็น "พื้นที่แห่งความตาย"

สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน ได้ออกประกาศทางโทรทัศน์กัมพูชาในเช้าวันอังคารนี้ กล่าวถึง "การรุกราน" ของไทยอย่างโกรธแค้น และ ตอกย้ำเรื่อง "เส้นตาย" ที่ยื่นต่อฝ่ายไทยอีกครั้งหนึ่ง

หนังสือพิมพ์กัมโบดจ์ซวาร์ (Cambodge Soir Hebdo) ภาษาฝรั่งเศส รายงานเรื่องนี้บนเว็บไซต์เมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงวันอังคาร (14 ต.ค.) นี้อ้างการเปิดเผยของ พลจัตวายืมปืม (Yeum Peum) นายทหารคนหนึ่งในพื้นที่ด้านชายแดนเขาพระวิหาร

" ลานอินทรี" เป็นชื่อที่ฝ่ายกัมพูชาใช้เรียก บริเวณลานกว้างที่อยู่ระหว่างสันเขาด้านหนึ่งกับปราสาทพระวิหาร เคยเป็นที่ตั้งมั่นของฝ่ายเขมรแดงที่นำโดยนายพลตาม๊อค (Ta Mok) ในช่วงปีที่ยังทำสงครามกองโจรต่อสู้กับรัฐบาลของนายฮุนเซน ที่เวียดนามหนุนหลังในอดีต

ถนน ที่ตัดเลียบไปตามไหล่เขาและถูกใช้เป็นเส้นทางเดินไปยังปราสาทพระวิหารใน ปัจจุบันนี้ก็ยังถูกเรียกว่า "ถนนตาม๊อค" และอาณาบริเวณอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ถัดไปก็ยังเรียกว่า "ลานตาม๊อค" จนถึงทุกวันนี้

ผู้นำกัมพูชากล่าวว่าทหารไทยกว่า 84 นายได้เข้าไปตั้งมั่นที่นั่น ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ประจันหน้ากับฝ่ายกัมพูชาที่ตั้งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ประมาณ 30 เมตร

"เราถือว่าลานอินทรีเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นจุดแห่งความเป็นความตายของพวกเรา" นายทหารคนเดียวกันกล่าวกับกัมโบดจ์ซวาร์ ทั้งสำทับว่าการเสียที่มั่นแห่งนั้นไป จะเป็นการสูญเสียการควบคุมปราสาทพระวิหาร
"เราจะต้องรักษาลานอินทรีเอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร" นายทหารเขมรคนเดิมกล่าว

ส่วนสมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ออกโทรทัศน์แถลงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในภาคเช้าวันอังคารนี้ สำทับอย่างโกรธแค้นให้ฝ่ายไทยต้องถอนหทารตามเงื่อนเวลาที่ยื่นต่อรัฐมนตรี ต่างประเทศของไทยเมื่อวันจันทร์

"โฆษกของรัฐบาลในกรุงเทพฯ คนหนึ่งกล่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของพวกเขา..." นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวทางโทรทัศน์อย่างโกรธแค้น

"มันเป็นไปได้อย่างไร พวกเขาเพิ่งจะเข้าไปที่นั่นเมื่อวานนี้" ผู้นำกัมพูชากล่าวต่อ

"ถ้าหากพวกเขาคิดว่ากัมพูชา (เป็นประเทศที่) จะมองข้ามได้ ก็ให้พวกเขาพูดไป!" สมเด็จฯ ฮุนเซนกล่าว

"อย่างไรก็ตาม มดสามารถสร้างความรำคาญให้แก่ช้างที่กำลังหลับได้เหมือนกัน พวกเขาอาจจะเหยียบหัวแม่เท้าของผมได้ แต่จะเหยียบหัวผมไม่ได้" นายกฯ กัมพูชากล่าวทางโทรทัศน์ ในกิริยาที่เกรี้ยวกราด

นายสมพงษ์ได้พบเจรจรากับนายฮอร์นัมฮอง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาเรื่องปัญหาชายแดน โดยไม่สามารถตจกลงอะไรกันได้ และในเวลาต่อมาได้เข้าเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาก่อนจะเดินทางกลับ พร้อมกับคำขาดให้ถอนทหาร.

No comments: