Wednesday, October 15, 2008

บั้งไฟพญานาค 4 ชั่วโมง โผล่ 200 ลูก

ไม่ผิดหวัง - นักท่องเที่ยวจำนวนมากจับ จองพื้นที่ริมแม่น้ำโขง บริเวณวัดไทย อ.โพน พิสัย จ.หนองคาย เพื่อรอดูบั้งไฟพญานาคในคืน 15 ค่ำ เดือน 11 ปรากฏว่าไม่ผิดหวังบั้งไฟลูกแรกผุดขึ้นเวลา 18.28 น. จากนั้นทยอยขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นับหมื่นหลั่งไหลปัก หลักแน่นริมฝั่งโขง เฝ้าดูบั้งไฟพญานาค ทำให้การจราจรบนถ.มิตรภาพมุ่งสู่หนองคาย และไปยัง 2 อำเภอริมโขง รัตนวาปี-โพนพิสัย คับคั่ง ปีนี้โผล่ให้เห็นมากกว่าปีก่อน เพราะมีน้ำมากทำให้อินทรีย์สารมาก ประกอบกับออกพรรษาตรงกับลาว ชาวบ้าน-นักท่องเที่ยวนับร้อยรายปูเสื่อกางเต็นท์ปักหลักตั้งแต่เช้า ขณะที่ลูกไฟชุดแรกโผล่พ้นน้ำโขงเมื่อ 18.28 น. เรียกเสียงเฮจากนักท่องเที่ยวดังลั่น หลังจากนั้นโผล่อีกเป็นชุด รวม 4 ชั่วโมงกว่า 200 ลูก

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.หนอง คาย ถึงบรรยากาศเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคว่า เริ่มคึกคักกันตั้งแต่เช้า มีรถยนต์และรถทัวร์ของนักท่องเที่ยวนับพันคัน เดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.หนอง คาย มุ่งหน้าไปยังอำเภอที่อยู่ริมแม่น้ำโขง คือ อ.โพน พิสัย รัตนวาปี ทำให้การจราจรตามถนนมิตรภาพ สายอุดรธานี-หนองคาย หนาแน่น แต่เคลื่อนตัวได้ไม่ติดขัด เพื่อรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในคืนวันเดียวกันนี้

สำหรับ สภาพการจราจรบนถนนสายหนองคาย-โพนพิสัย คับคั่งไปด้วยรถยนต์หลากหลายชนิดที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวอ.โพนพิสัย และรัตนวาปี รวมถึงพื้นที่ที่จะมองเห็นบั้งไฟพญานาคได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยอำนวยความสะดวกในการจัดการจราจร แต่การจราจรอาจติดบ้างบริเวณคอสะพานปากสวย ประกอบกับมีร้านค้าริมทางหนาแน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอให้แม่ค้าขยับแผงขายสินค้าเข้าไปในพื้นที่อีก เพื่อให้การจราจรสะดวกขึ้น รวมทั้งไม่ให้จอดรถข้างทางเพื่อขายสินค้าด้วย และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้าง โดยเป็นการเฉี่ยวชนเล็กน้อยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งรถแต่ละคันสามารถวิ่งรถได้ที่ความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางถึงจ.หนองคายตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนใหญ่จะเข้าไปที่วัดต่างๆ เพื่อทำบุญไหว้พระ ขอพร เนื่องในวันออกพรรษา โดยเฉพาะที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง นักท่องเที่ยวไปกราบไหว้หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย และทำบุญกับวัด ทำ ให้บรรยากาศภายในวัดเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว

ส่วนที่วัด ไทยและวัดหลวง อ.โพนพิสัย นักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่พากันจับจองที่นั่งเพื่อรอชมบั้งไฟพญานาค โดยมีการปูเสื่อ ผ้ายาง กางเต็นท์ จับจองไว้ล่วงหน้า ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ แต่ก็ยังนั่งรออย่างไม่ย่อท้อ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจับจองพื้นที่นั่งชมส่วนใหญ่มาเป็นครอบ ครัว และเดินทางมาจากจังหวัดที่อยู่ไกลๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งเดินทางมาจากตัวเมืองหนองคายตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ต.ค.

สำหรับบั้งไฟพญานาค มีลักษณะเป็นลูกไฟสีแดงอมชมพู ผุดขึ้นกลางแม่น้ำโขง สูงประมาณ 50 เมตร แล้วหายไป ไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง มักจะเกิดบั้งไฟพญานาคตั้งแต่ช่วงพลบค่ำ เรื่อยไปจนถึงเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ชาวหนองคายเชื่อว่า ในปีนี้บั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นมาก เนื่องจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 30 ปีของหนองคาย ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงมีมาก อินทรีย์สารในแม่น้ำโขงที่เป็นสารสำคัญในการเกิดบั้งไฟพญานาคก็จะมีมากตามไป ด้วย อีกทั้งตามความเชื่อของชาวบ้านว่า หากปีไหนออกพรรษาไทยและลาวตรงกัน ปีนั้นจะมีบั้งไฟพญานาคมาก ซึ่งปีนี้ออกพรรษาไทยกับลาวตรงกัน ดังนั้นเชื่อว่าบั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นมากกว่าทุกปีด้วย

นาย วิโรจน์ จิวะรังสรรค์ รองผู้ว่าฯ หนองคาย เปิดเผยว่า ได้ย้ำทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด และกำชับให้พาณิชย์จังหวัดออกตรวจสอบร้านค้า ร้านอาหาร และจุดบริการที่จอดรถไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา พร้อมบังคับใช้มาตรการจัดการขั้นเด็ดขาด หากมีผู้ประกอบการฝ่าฝืน และยังกำชับร้านขายของไม่ให้จำหน่ายประทัดหรือดอกไม้ไฟ เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็นบั้งไฟพญานาคเกิดความสับสนว่าอันไหน เป็นบั้งไฟพญานาค อันไหนเป็นดอกไม้ไฟ

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า เวลา 18.28 น. บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นเป็นชุดแรกกลางแม่น้ำโขงจำนวน 3 ลูก ในเวลาไล่เลี่ยกัน ด้วยสีชมพูอมแดง บริเวณบ้านท่าม่วงตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี นักท่องเที่ยวและประชาชนต่างพากันโห่ร้องด้วยความดีใจ หลังจากบั้งไฟชุดแรกเกิดขึ้น ชุดต่อๆ มาก็ทยอยผุดกลางแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง ที่บ้านท่าม่วงตาลชุม, บ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี, บ้านผาตั้ง อ.สังคม และหน้าวัดไทย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย กระทั่งถึงเวลาประมาณ 19.30 น. นับได้ 14 ลูก ล่าสุดเวลา 20.35 น. ที่หน้าวัดไทยมีบั้งไฟอีกประมาณ 20 ลูก และในพื้นที่อื่นๆรวมแล้วประมาณ 50 ลูก

สำหรับบริเวณบ้านท่าม่วงตาลชุม เกิดบั้งไฟพญานาคเป็นประจำทุกปี ล่าสุดในปี 2550 เกิดขึ้น 54 ลูก และหลายหมู่บ้านในอ.รัตนวาปี เกิดขึ้น 96 ลูก ขณะที่จำนวนบั้งไฟพญานาคที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของจ.หนองคายรวม 253 ลูก

ส่วน บรรยากาศที่วัดไทย อ.โพนพิสัย เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวเบียดเสียดยัดเยียดแน่นขนัดริมฝั่งแม่น้ำโขง ประมาณ 20,000 คน ท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา ลมกระโชกแรงนานประมาณ 5 นาที แล้วหยุดไป นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือหลายเครือข่ายไม่สามารถใช้การได้ รวมทั้งระบบอินเตอร์เน็ตก็เกิดการขัดข้อง มีนักท่องเที่ยวบางส่วนจุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟเป็นระยะๆ รบกวนการเฝ้าชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างมาก แม้เจ้าหน้าที่จะห้ามปรามแล้วก็ตาม

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เวลาประมาณ 22.00 น.มีการนับจำนวนบั้งไฟพญานาคในพื้นที่จ.หนองคายได้จำนวนอย่างไม่เป็นทางการ 227 ลูก คือที่ อ.รัตนวาปี 72 ลูก อ.โพนพิสัย 62 ลูก อ.เมืองหนองคาย ที่วัดอุทุมพรบ้านเดื่อ 48 ลูก อ.ศรีเชียงใหม่ 10 ลูก อ.สังคม 28 ลูก และที่อ.บึงกาฬ 7 ลูก
ที่มา ข่าวสด

No comments: