Thursday, October 16, 2008

เขมรใช้เขาพระวิหาร เป็นโล่ เหตุทหารไทยตอบโต้ลำบาก

ทหารเขมรใช้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นโล่ ทำให้ทหารไทยตอบโต้ลำบาก ผจก.โครงการถนนแห่งสันติภาพ เผย ภูมะเขือมีระเบิดหนาแน่น ด้านทหารไทยเร่งขนยุทธปัจจัยตรึงแนวชายแดนไทย กัมพูชา ด้านฝั่งตะวันออก

(16ต. ค.) แหล่งข่าวสายทหารรายหนึ่ง เปิดเผยว่า จากเหตุปะทะกันวานนี้ เห็นชัดว่าเขมรต้องการประกาศสงครามกับไทยอย่างชัดเจน เพราะจากการดักฟังคลื่นวิทยุ ได้ยินคำสั่งยิงอย่างชัดเจนว่า“ตะแกรงๆ” โดยคำสั่งยิงนั้น ตั้งใจจะยิงให้โดนจานดาวเทียมสื่อสารที่ตั้งอยู่บนผามออีแดง แต่เขายิงพลาด จึงยิงถูกทหารที่รักษาการอยู่แถวใกล้จานดาวเทียม จากนั้นกระสุนปืนใหญ่ ได้ยิงปูพรมตลอดแนวที่ทหารไทยตรึงกำลังอยู่ โดยการเปิดฉากยิงมาแบบไม่ได้ตั้งตัว ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บหลายราย

แหล่งข่าวรายเดิม บอกว่า การยิงตอบโต้กลับของทหารไทยเป็นไปอย่างลำบาก เนื่องจากเขาอยู่สูงกว่าเรา และจับความเคลื่อนไหวของเราได้หมด ขณะเดียวกันทหารเขมรบางส่วน ก็ตรึงกำลังอยู่บริเวณรอบตัวปราสาทรวม ทั้งภายในปราสาทด้วย ทำให้การยิงตอบโต้ของเราทำได้ลำบาก เพราะเป็นห่วงว่าหากยิงเข้าใส่ตรง ๆจะทำตัวปราสาทได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้เขมรยังไม่ได้อพยพชาวบ้านออกทั้งหมด คาดว่าน่าเป็นลูกเมียทหารที่อาศัยอยู่พื้นที่พิพาท สังเกตจากการสั่ง หากบอกว่าถอนกำลัง ทหารก็จะถอดเสื้อทหารออกแล้วใส่แบบชาวบ้านธรรมดาอยู่กับลูกเมีย แต่เมื่อมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ว่าเตรียมพร้อมก็วิ่งไปใส่เสื้อและจับปืนกลับมาเป็นทหาร แล้วให้ลูกเมียหลบอยู่ในที่กำบัง เท่ากับว่าตอนนี้ เขมรมีทั้งโล่มนุษย์และยังมีตัวปราสาทเป็นโล่อีกด้วย ทำให้การตอบโต้ของทหารไทยเป็นไปอย่างลำบาก

ด้านนายเรืองฤทธิ์ เลื่อนไธสง ผู้จัดการโครงการถนนแห่งสันติภาพ กล่าวว่า จากที่ลงพื้นที่แถบนี้มานาน รู้สึกเป็นห่วงทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณภูมะเขือ เพราะบริเวรนั้นมีระเบิดอยู่อย่างหนาแน่น โดยข้อมูลจากองค์กรความร่วมมือเพื่อชาวนอร์เวย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำการสำรวจทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ระบุว่า พื้นที่ภูมะเขือเป็นพื้นที่ 436 - DR คือพื้นที่อันตราย เพราะเคยเป็นพื้นที่สู้รบต่อเนื่องมานาน ตั้งแต่สงครามภายในของกัมพูชา ประกอบกับข้อมูลที่เราได้รับจากชาวบ้าน ว่าพบทุ่นระเบิด รวมทั้งมีชาวบ้าน และสัตว์เลี้ยงเหยียบกับระเบิดบ่อยมากในบริเวณดังกล่าว

นายเรืองฤทธิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ภูมะเขือยังไม่ได้รับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากการทำงานของหน่วยเก็บกู้ระเบิดนั้นมีข้อจำกัด ทั้งเรื่องกำลังพล และงบประมาณ เพราะงานเก็บกู้จะต้องอาศัยคนที่มีความกล้า ซึ่งตอนนี้โครงการถนนแห่งสันติภาพมีบุคคลกรอยู่แค่ 34 คนเท่านั้น ประกอบกับงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องจักรช่วยในการเก็บกู้ระเบิดก็มีจำกัด

ที่ผ่านมาจึงเลือกพื้นที่ที่จะเข้าไปเก็บกู้ในโซนที่ถูกร้องขอมา ก่อน เช่นพื้นที่เขาพระวิหาร เพราะรัฐบาลต้องการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และขณะนี้โครงการกำลังทำการเก็บกู้อยู่บริเวณเขาสันตาโสมบริเวณปราสาทโดนตวล เขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งชาวบ้านร้องขอมา โดยปีนี้เก็บกู้แล้วทั้งหมด 545 ลูกจากพื้นที่ 3 แสนตารางเมตร ส่วนใหญ่เป็นทุ่นระเบิด PMN รุ่นเก่าของรัสเซีย สำหรับระเบิดรถถัง แต่ภูมะเขือ ยังไม่ได้เก็บกู้ เนื่องจากเห็นว่ายังอยู่ห่างจากเขาพระวิหารมาก ดังนั้น กับระเบิดจึงยังคงมีอยู่อย่างหนาแน่น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้(16ต.ค.) ชาวบ้านเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและผู้กำลังเดินทางไปทำงานสัญจรผ่านบน ถนนสาย ฉะเชิงเทรา -บางปะกง ต่างพากันให้ความสนใจกับขบวนรถบรรทุกเทเลอร์ทหารจำนวนมาก ที่บรรทุกขนสัมภาระมาเต็มคันรถ ขับเคลื่อนเป็นขบวนยาว ผ่านเส้นทางบริเวณถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง เลี้ยวขวาออก เข้าสายบายพาสเลี่ยงเมือง สู่ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา -กบินทร์บุรี มุ่งหน้าสู่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยต่างเชื่อว่า น่าจะเป็นการลำเลียงขนส่งอาวุธ และสิ่งของสัมภาระ ไปใช้ช่วยสนับสนุนทหารที่ตรึงกำลังอยู่ที่บริเวณตามแนวชายแดน จ.สระแก้ว

โดยขบวนรถดังกล่าวมีจำนวน 10 คัน เป็นรถพ่วงขนาด 18 ล้อ แบบหางพ่วงยาว มีสิ่งของสัมภาระบรรทุกมาเต็มคันรถทุกคัน โดยมีผ้าใบปกคลุมอยู่ด้านบน จากการสอบถามหัวหน้าชุด ซึ่งเป็นนายทหารระดับสัญญาบัตร ที่ทำการควบคุมการขนส่งมาในขบวนรถนี้ ไม่ยินยอมเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดให้ทราบแต่อย่างใด หรือขนสิ่งของสัมภาระจากที่ใด ไปยังที่ใด โดยบอกแต่เพียงว่า เป็นความลับของทางราชการเท่านั้น ขณะที่ด้านข้างของตัวรถเขียนข้อความระบุเพียง ชื่อหน่วยงานที่ทำการขนส่ง คือ พัน ขส.2 (ผสม.) กรม ขส.รอ. เท่านั้น

No comments: