Wednesday, October 29, 2008

สมชาย ฟื้นประชานิยมกองทุนหมู่บ้าน-โอทอป

สมชาย” ฟื้นประชานิยมของ “ทักษิณ” ทั้ง “กองทุนหมู่บ้าน-โอทอป” เล็งขยายวงเงิน SML เป็น 1.5-2 ล้าน เป็นปลื้ม กลุ่มสภาสตรี มอบดอกไม้ให้กำลังใจ ยันจะอดทน อดกลั้น ทำให้คนไทยรักกันให้ได้

วันนี้ (29 ต.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการการบูรณาการกองทุนหมู่บ้านและ ชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (โอทอป) และ เอสเอ็มแอล โดยมี นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

โดยก่อนเปิดประชุม นายกรัฐมนตรีได้พูดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของศูนย์เครือข่ายถ่ายทอดความ รู้ไปยังที่ว่าการอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตอนหนึ่งว่า ต้องขอบคุณนายอำเภอที่ทำให้โครงการทั้งเอสเอ็มแอล โอทอป และ กทบ.ประสบผลสำเร็จ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน เพราะถือว่าการทำงานดังกล่าว เป็นเรื่องของชุมชนและหมู่บ้าน ประชาชนจะต้องได้รับการสนับสนุนจากโครงการต่างๆ ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วน ซึ่งตนดีใจที่โครงการเหล่านี้ ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ สามารถเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ลดรายจ่าย อย่างไรก็ตาม ขอให้นายอำเภอช่วยดูแลอย่ามีปัญหาการรั่วไหลของเงิน เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน ซึ่งรัฐบาลก็จะติดตามไปเรื่อยๆ

นายกรัฐมนตรี แถลงว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจของ รัฐบาลสู่ระดับรากหญ้าครั้งนี้ ได้เน้นย้ำ 3 เรื่องสำคัญ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ประกอบด้วย กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ในการสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น โดยอาจขยายวงเงินออกไปเป็น 1.5-2 ล้านบาท ได้ และจะส่งเงินพัฒนาชุมชนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแล และจะให้งบประมาณเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริงโดยโปร่งใส ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นฝ่ายติดตามดูแล รวมถึงโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ที่จะเน้นการผลิตสินค้าอย่างมีคุณภาพ รวมถึงจัดงานโอทอปซิตี้ เป็นครั้งคราว ตามงานเทศกาลต่างๆ ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่า ได้มีชมรมสมาชิกรัฐสภารักสตรีไทย ประมาณ 10 คน เดินทางมามอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจต่อนายกรัฐมนตรี โดย นายสมชาย ได้กล่าวขอบคุณ และว่า ตอนนี้จะพยายามใช้ความอดทน อดกลั้น ทำงานให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกันแบบพี่แบบน้อง และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีความรัก สามัคคีซึ่งตนก็พร้อมที่จะเดินหน้าทำงานต่อไป และคิดว่าจากนี้ไปเวลาไปไหนก็คงจะมีความอบอุ่นใจมากขึ้น เพราะสังคมจะมีความรักความสามัคคีมากขึ้น
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

No comments: