แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวว่า ประธานศาลฎีกาได้แสดงความห่วงใยในกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณออกแถลงการณ์สื่อต่างประเทศโต้แย้งคำพิพากษาขององค์คณะศาลฎีกาฯ ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ และได้สั่งการให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เผยแพร่คำพิพากษากลาง และคำพิพากษาส่วนตัวขององค์คณะคดีที่ดินทั้ง 9 คนผ่านทางเว็บไซต์ศาลฎีกา www.supremecourt.go.th ให้ประชาชนทั่วไปอ่านเพื่อสร้างความเข้าใจในเหตุผลการตัดสิน โดยเฉพาะคำพิพากษาส่วนตนจะมีทั้งเสียงข้างมากที่ตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ และเสียงข้างน้อยที่ตัดสินยกฟ้องว่าองค์คณะใช้เหตุผลตัดสินอย่างอิสระไม่มี ใครแทรกแซง
“ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่ผู้พิพากษาเกี่ยวกับการออกมาโต้ แย้งคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดาฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าศาลยุติธรรมต้องปกป้องสถาบันศาลไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจากคำพูดของผู้ ต้องคำพิพากษาจำคุกอย่างไร แต่ศาลไม่มีหน้าที่ลงไปทะเลาะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้พิพากษาในองค์คณะบางคนเห็นว่า ศาลควรรอให้มีผู้เสียหายซึ่งอาจจะเป็นนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ในคดีที่ดินรัชดาฯ มาร้องให้ศาลพิจารณากรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ละเมิดอำนาจศาลจึงเริ่มดำเนินการน่าจะเหมาะสมกว่า” แหล่งข่าวเผย
ทั้งนี้ แหล่งข่าวคนเดิมยังกล่าวด้วยว่า ประธานศาลฎีกากังวลที่สื่อสารมวลชนนำเสนอข่าวความเห็น หรือการนำถ้อยแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณมาเผยแพร่ เพราะการเผยแพร่ข่าวของสื่ออาจเข้าองค์ประกอบดูหมิ่นผู้พิพากษา หรือละเมิดอำนาจศาลไปด้วย ดังนั้น สื่อควรพิจารณาเนื้อหาและศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนจะตีพิมพ์อะไร รวมทั้งต้องคิดให้มากด้วยว่าสมควรให้ความสำคัญเผยแพร่ข่าวนั้นมากน้อยแค่ไหน เพราะอาจเป็นการเพิ่มช่องทางกระพือความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
No comments:
Post a Comment