Wednesday, October 15, 2008

เปิดฉากปะทะเดือดไทย-กัมพูชาที่ชายแดนเขาพระวิหาร


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ทหารไทย-กัมพูชา เปิดฉากปะทะเดือด! แล้ว ที่บริเวณชายแดนภูมะเขือ ห่างจากเขาพระวิหารประมาณ 2 กม.เผยทหารเขมรยิงถล่มฝ่ายไทยก่อน และมีเสียงปืน รวมทั้งระเบิด-อาวุธหนักตามมาอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์ตึงเครียดตลอดทั้งวัน เผยคืนที่ผ่านมาฝ่ายไทย ขนกำลังทหาร และปืนใหญ่ นับ 10 กระบอก เข้าเสริมพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร

วันนี้ (15 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.25 น.ที่ผ่านมาได้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างกองกำลังทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณภูมะเขือ ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากเขาพระวิหารทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่ทหารไทย-กัมพูชา ปะทะกันเมื่อวันที่ 3 ต.ค.และทหารไทยเหยียบกับระเบิดวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา

รายงานข่าวแจ้งว่า กองกำลังทหารกัมพูชา ได้เปิดฉากยิงปืนกลถล่มใส่ทหารไทยก่อนตามด้วยปืนใหญ่ จากนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด รวมทั้งเสียงระเบิดและอาวุธหนักตามมาเป็นระยะๆ และทางการไทยได้แจ้งให้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แล้ว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานรายเพิ่มเติมว่า วันนี้ (15 ต.ค.) ก่อนที่จะมีการเปิดฉากปะทะกันขึ้น ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีรถบรรทุกทหารไทยเต็มคันรถหลายคันวิ่งขึ้นไปยังบริเวณเขาพระวิหาร เพื่อตรึงกำลังทหารรอบบริเวณทหารอย่างเต็มที่ และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระ วิหารอย่างเด็ดขาด โดยมีกำลังทหารพร้อมอาวุธปืนครบมือรักษาการอย่างเข้มงวด

ขณะ ที่ตลอดคืนที่ผ่านมา ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ในช่วงของวันออกพรรษา บรรยากาศค่อนเงียบเหงา เนื่องจากไม่มีชาวบ้านภูมิซรอลพากันออกมาทำบุญที่วัดแต่อย่างใด เพราะชาวบ้านทุกคนต่างพากันหวาดกลัวภัยสงครามที่อาจเกิดขึ้นที่บริเวณเขาพระ วิหาร ได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ในนช่วงกลางดึก (14 ต.ค.) ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้มีรถบรรทุกทหารไทยหลายคันขนทหารไทยจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังบริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยทหารทุกนายมีอาวุธหนัก-เบาครบมือ แต่งเครื่องแบบชุดทหารพร้อมรบ และมีรถบรรทุกของทหารไทย ที่ด้านข้างประตูรถเขียนคำว่า ป พัน 106 และ คำว่า ป พัน 16 ได้ลากปืนใหญ่ จำนวนประมาณ 10 กระบอกเข้าไปยังบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย แต่ไม่ทราบพิกัดที่แน่ชัดว่านำเอาปืนใหญ่ไปตั้งไว้ที่จุดใด ทั้งนี้ คาดว่า เพื่อเป็นการเตรียมการสู้รบกับทหารกัมพูชา
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

No comments: