Wednesday, October 15, 2008

อย.พบนมข้นจืดมะลิเปื้อนเมลามีนเกินมาตรฐาน 37 เท่า


อย.ตรวจพบเมลามีนปนเปื้อนในนมข้นจืดตรา มะลิ เกินมาตรฐานถึง 37 เท่า สั่งอายัดที่โรงงาน 1.5 แสนกระป๋อง – ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดสั่งเก็บห้ามขายหมด เนยเค็ม ครีมเทียม นมข้นหวาน ยี่ห้อเดียวกันรอลุ้นผล ส่วนยี่ห้ออื่นเก็บตรวจแล้วแต่ยังไม่ทราบผล

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข แถลงว่า อย.ได้รับผลการตรวจวิเคราะห์สารเมลามีนจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบสารเมลามีน 1 รายการ คือ นมข้นแปลงไขมันไม่หวาน สูตรน้ำมันปาล์ม ตรามะลิ ชนิดกระป๋อง เลขสารบบ อย. 14-1-02323-1-0037 น้ำหนักสุทธิ 385 กรัม วันหมดอายุ 160109 ผลิตโดยบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ตรวจพบปริมาณ สารเมลามีน 92.82 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่อย.กำหนดในผลิตภัณฑ์นมต้องมีเมลามีนไม่เกิน 2.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

รมช.สธ. กล่าวอีกว่า อย. ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ มาตรวจสอบทั้งสิ้นจำนวน 10 รายการ พบ 1 รายการ ,ไม่พบการปนเปื้อนของสารเมลามีนจำนวน 6 รายการ คือ 1. นมดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกและเด็กเล็ก อายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ปี ชนิดละลายทันทีสูตร 2 นูโอ-พลัส เครื่องหมายการค้าสโนว์แบรนด์ 2. นมผงดัดแปลงสำหรับทารกชนิดละลายทันที สูตร 1 สำหรับทารก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 1 ปี นูโอ เครื่องหมายการค้าสโนว์แบรนด์ 3. ผลิตภัณฑ์นมชนิดละลายทันที สูตร 3 ผลิตภัณฑ์นมชนิดละลายทันที สำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว นูโอ-คิดส์ เครื่องหมายการค้าสโนว์แบรนด์

4. นมข้นแปลงไขมันหวานสูตรน้ำมันปาล์มผสมมันเนย ตรามะลิ นมผงขาดมันเนย 20% 5.Foster Farms Dairy NON FAT DRY MILK MADE FROM PASTEURIZED MILK และ 6. Skimmed Milk Powder และอีก 3 รายการ รอผลการตรวจสอบ ได้แก่ เนยชนิดเค็ม ตราออร์คิด ครีมเทียมข้นหวานชนิดพร่องไขมัน ตรา เบิดวิงซ์ นมข้นแปลงไขมันหวาน ตรามะลิ

นายวิชาญ กล่าวด้วยว่า เมื่อได้รับผลการตรวจวิเคราะห์พบสารเมลามีน เจ้าหน้าที่ อย. จึงรีบเข้าไปตรวจสอบยังโรงงาน เลขที่ 158 นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบการใช้วัตถุดิบ โดยบริษัทได้แจ้งว่า วัตถุดิบที่นำมาใช้มาจากหลายแหล่ง หลายประเทศ เช่น เบลเยี่ยม สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เยอรมนี อินเดีย และพม่า เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ อย. อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ยังได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบของบริษัทมาตรวจสอบเพิ่มเติมอีก จำนวน 15 รายการ และได้ประสานด่วนโดยทำหนังสือถึงบริษัทฯ ผู้ค้าปลีก และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ให้เรียกคืนผลิตภัณฑ์รุ่นที่มีปัญหาดังกล่าว รวมทั้งทุกผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้วัตถุดิบเดียวกัน พร้อมทั้งนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบเดียวกันออกจาก ชั้นวางจำหน่ายทุกแห่งทันที

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่โรงงานเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดนมชนิดนี้ทั้งสิ้น 1.5 แสนกระป๋อง ซึ่งทราบว่าในรอบปีนี้บริษัทมีการผลิตสินค้าชนิดนี้ทั้งสิ้น 4 ล็อต โดยล็อตที่มีการตรวจพบสารเมลามีนปนเปื้อนเป็นล็อตที่ผลิตเมื่อราววันที่ 16 มกราคม 2551 ซึ่งผลิตจำนวนทั้งสิ้น 4 หมื่นกระป๋องอย.ได้สั่งเก็บออกจากท้องตลาดทั้งหมด ส่วนอีก 3 ล็อตได้สั่งการให้นำออกจากชั้นวางจำหน่ายเป็นการชั่วคราวจนกว่าผลการตรวจสอบ จะออกมาว่ามีการปนเปื้อนหรือไม่ หากไม่มีก็ให้นำมาวางจำหน่ายได้ตามปกติ

“ในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าวัตถุดิบที่บริษัทใช้มีการนำเข้าจากหลาย ประเทศ แต่ไม่มีประเทศจีนแน่นอน จึงต้องสอบย้อนกลับไปว่าประเทศที่ขายวัตถุดิบให้กับบริษัทนี้นำเข้าวัตถุดิบ จากประเทศไหนต่อไป ส่วนระยะยาวอย.จะขอความร่วมมือให้บริษัทนี้ เฝ้าระวังและตรวจสอบวัตถุดิบเข้มข้นมากขึ้น ในขณะที่อย.ก็จะเก็บสินค้าของบริษัทที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมาตรวจสอบเป็น ระยะๆเช่นกัน ส่วนสินค้าที่มีผู้บริโภคซื้อไปแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นบริษัทต้องรับผิดชอบ ส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันของยี่ห้ออื่นๆ อย.ได้เก็บตัวอย่างมาตรวจแล้วแต่ยังไม่ทราบผล”นพ.พิพัฒน์กล่าว

เลขาธิการอย. กล่าวอีกว่า สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพไตของแต่ละบุคคล ปริมาณที่รับประทาน และน้ำหนักตัวของผู้บริโภค ทั้งนี้ ตามเกณฑ์มาตรฐานมีการระบุว่าสามารถบริโภคเมลามีนได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัมต่อวัน หากน้ำหนักตัว 40 -50 กิโลกรัม ก็บริโภคได้ไม่เกิน 25 มิลลิกรัม ซึ่งนมชนิดนี้ 1 กระป๋องน่าจะมีปริมาณประมาณ 500 กรัม เพราะฉะนั้น หากบริโภคนมหมดใน 1 กระป๋อง จะได้รับสารเมลามีนประมาณ 45 มิลลิกรัม แต่โดยมากไม่มีใครบริโภคหมด 1 กระป๋องใน 1 วัน เพราะอย่างมากคงใส่ในกาแฟเพียงเล็กน้อย แต่หากเป็นในเด็กเล็กจะมีอันตรายมากกว่าเพราะระบบย่อยอาหารยังไม่ดี

“ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ที่ตรวจพบมีสารเมลามีนปนเปื้อน ประชาชนไม่ได้บริโภคปริมาณมากในแต่ละวัน และไม่ได้บริโภคเป็นประจำทุกวัน หากบริโภคทางสายกลางก็ไม่น่าจะมีอันตรายมาก ส่วนผู้บริโภคที่สงสัยว่าตนเองบริโภคนมหรือผลิตภัณฑ์นมที่มีการปนเปื้อนของ สารเมลามีนเข้าไปแล้ว แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพราะสารชนิดนี้สามารถขับออกได้ทางไต แต่หากเกรงจะเป็นนิ่วหรือโรคไต ก็ให้สังเกตตัวเอง ขณะที่ผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอสแอนด์พี ที่อย.เก็บตัวอย่างมาตรวจเมื่อเร็วๆนี้ยังไม่ทราบผล”นพ.พิพัฒน์กล่าว

เล ขาธิการอย. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับความผิดที่จะได้รับคือ โทษฐานผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ อย. จะเข้มงวด ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่มีปัญหา และจะถือว่าเข้าข่ายต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค ขณะเดียวกันจะให้บริษัทมีมาตรการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ให้ปราศจากสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะสารเมลามีน เพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนซ้ำ และหาก อย. ตรวจสอบพบการปนเปื้อนซ้ำอีก จะมีโทษที่รุนแรงขึ้น และไม่เป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

No comments: