Wednesday, October 29, 2008

คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตัดพยาน 8 ปากทิ้ง

ผบช.ก.ประชุมชุดสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมราชานุ ภาพ สอบถามความคืบหน้า พบคดีค้าง 32 คดี สั่งฟ้องอัยการ 4 คดี เหลืออีก 28 คดีอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนคดี “จักรภพ” คณะกรรมการเห็นควรตัดพยาน 8 ปากทิ้ง ระบุ ใช้เวลาในการสอบนานพอแล้ว คณะกรรมการมีความเห็นเดิมสั่งฟ้องให้กรรมการระดับ ตร.มีความเห็นส่งฟ้องให้อัยการต่อไป

วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ก.ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทุกคดีที่อยู่ใน ความรับผิดชอบในสังกัด บช.ก.เพื่อติดตามความคืบหน้าและแนวทางการทำงาน โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชม.

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ขณะนี้ บช.ก.มีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพค้างอยู่ 32 คดี โดยสรุปเสนอสั่งฟ้องให้อัยการไปแล้ว 4 คดี ที่เหลืออีก 28 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งแยกเป็นคดีหมิ่นทางเว็บไซต์ 15 คดี วิทยุชุมชน 2 คดี ที่เหลือก็เป็นคดีร้องทุกข์ทั่วไป วันนี้ก็ได้เรียกพนักงานสอบสวนในแต่ละคดีมาประชุมสอบถามความคืบหน้า ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการทำงาน

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่มีการร้องขอให้พนักงานสอบสวนทำการสอบพยานเพิ่มอีก 18 ปาก พนักงานสอบสวนสามารถติดต่อพยานสอบปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้ว 10 ปาก อีก 8 ปากไม่สามารถติดตามได้ทางคณะกรรมการคดีหมิ่นระดับ บช.ก.จึงมีความเห็นให้ตัดพยานทั้ง 8 ปาก ไปเพราะใช้ระยะเวลาในการสอบสวนมาพอสมควรแล้ว คณะกรรมการคดีหมิ่นระดับ บช.ก.จึงได้มีความเห็นตามความเห็นเดิมสั่งฟ้องนายจักรภพในความผิดตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 112 เสนอความเห็นไปยังคณะกรรมการคดีหมิ่นระดับ ตร.แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการคดีหมิ่นระดับตร.ก็จะมีความเห็น จากนั้นก็ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการต่อไป

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของคดีที่เกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอื่นๆ พนักงานสอบสวนก็ให้ความสำคัญทั้งหมด แต่บางคดีดำเนินการยาก เช่น คดีที่เกิดในต่างประเทศ เป็นขั้นตอนของอัยการสูงสุดดำเนินการ ซึ่งอัยการสูงสุดมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพนักงานสอสวนร่วมในการติดตาม พยาน เมื่อติดต่อพยาน บางรายพยานอยู่ต่างประเทศ เมื่อติดต่อได้ก็ไม่ยอมเดินทางมาให้ปากคำ ส่วนกรณี นายโจนาธาน เฮด นักข่าว BBC ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการ ดำเนินการ

ผบช.ก.กล่าวว่า การดำเนินคดีหมิ่นทางเว็บไซต์นั้น ก็มีปัญหาพอสมควรเพราะปกติทางเว็บมาสเตอร์จะเก็บข้อมูลไว้ 90 วัน แต่กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับเรื่องมากก็เกินเวลาแล้วทำให้รวบรวมพยานหลัก ฐานยาก บางคดีทราบไอพีแอ็ดเดรสก็ปรากฏว่าเป็นเครื่องบริษัทเมื่อสอบถามพยานก็ไม่มี ใครยอมรับปฏิเสธกันหมดก็ต้องมาไล่ดูว่าใครใช้เครื่องเวลาไหนอย่างไร ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ” ผบช.ก.กล่าว

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนเองก็ได้เน้นย้ำให้พนักงานสอบสวน เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดฐานหมิ่น พระบรมเดชานุภาพ และมอบหมายให้ทุกกองบังคับการของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เฝ้าระวังสื่อทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ โดยเฉพาะสถานีวิทยุชุมชน รวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ การพูด หรือกล่าวปราศรัยต่อสาธารณชน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

No comments: