Tuesday, October 14, 2008

ห้ามกระปี๋ถีบคุณปู่ตกรถเมล์ทำงานต่อไป คนขับก็โดนด้วย

กระเป๋า สาวตีนโหด โดนขึ้นบัญชีดำห้ามทำงานเก็บค่าโดยสารตลอดไป หลังก่อเหตุรังแกคนสูงอายุ ถีบหน้าคุณปู่ทหารผ่านศึกวัย 68 ปีตกรถเมล์ เพราะไม่พอใจที่ใช้สิทธิ์จ่ายค่าโดยสารเพียงครึ่งเดียว ตร.เรียกสอบพร้อมคนขับรถที่ไล่คุณปู่ลงจากรถ ทั้งคู่สารภาพก่อเหตุจริง ถูกปรับคนละ 500 บาท แถมโดนเจ้าของอู่รถร่วมฯไล่ออก ขณะที่ขสมก.ประสานกรมการขนส่งฯขึ้นบัญชีดำห้ามต่อใบขับขี่สาธารณะให้คนขับ ส่วนกระปี๋โหดก็จะไม่ต่อใบอนุญาตอีกต่อไป

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นายนเรศ บุญเปี่ยม ผู้ช่วยผอ.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวกรณีรถเอกชนร่วมบริการสาย 123 หมายเลขข้างรถ 123-26 ใช้เท้าถีบนายธวัชช์ จันทร์สุข อายุ 68 ปี ข้าราชการบำนาญทหารผ่านศึก ตกจากรถเมล์ บริเวณสี่แยกทศกัณฐ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 11 ต.ค. นั้น

จากกรณีดังกล่าว ขสมก.ได้สอบสวนกรณีดังกล่าวแล้วพบว่า รถร่วมบริการสาย 123 หมายเลข 123-26 คันดังกล่าวเป็นของนายพยนต์ ธารณา เป็นผู้ประกอบการ มีนายอนันทา ศิลปศาสตร์ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถ และ นางพิจิตรา ศิลปศาสตร์ เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสาร ได้รับสารภาพว่ากระทำผิดจริง เนื่องจากผู้โดยสารเป็นข้าราชการบำนาญได้ใช้สิทธิ์จ่ายเงินค่าโดยสารครึ่ง ราคา ทำให้พนักงานเก็บค่าโดยสารไม่พอใจและตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายก่อนจะหยุดรถ ขณะเดียวกันพนักงานขับรถได้ตรงเข้าผลักอกผู้โดยสาร ทำให้ผู้โดยสารกลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงรีบลงจากรถ แต่พนักงานเก็บค่าโดยสารได้ใช้เท้าถีบที่เบ้าตาขวาตกจากรถได้รับบาดเจ็บ และผู้โดยสารเข้าแจ้งความดำเนินดคีที่ สน.ศาลาแดง ซึ่งพนักงานทั้ง 2 คน ยอมรับผิดและตกลงกันได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปรับเป็นเงิน 500 บาท

นายนเรศ กล่าวว่า แม้ทางตำรวจจะเปรียบเทียบปรับทางคดีไปแล้ว แต่การกระทำของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารดังกล่าว เป็นการกระทำฝ่าฝืนระเบียบของ ขสมก. โดยไม่ลดหย่อนค่าโดยสารให้แก่ผู้มีสิทธิ์ตามที่ราชการกำหนด และผิดข้อกำหนดในสัญญาการเข้าร่วมเดินรถกับ ขสมก. ทำให้เกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ขององค์กร และเสียหายแก่ชีวิตร่างกายของผู้โดยสาร ขสมก.จึงได้ลงโทษปรับนางพิจิตราเป็นเงิน 500 บาท และนายพยนต์ผู้ประกอบการได้ลงโทษไล่ออกทั้ง พขร. และ พกส. พร้อมทั้งแจ้งกรมการขนส่งทางบก เพื่อลงบันทึกประวัติการกระทำความผิด มิให้สามารถเข้ามาขอหรือต่อใบอนุญาตประกอบอาชีพขับรถสาธารณะ และเป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารได้อีกต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 11 ต.ค. ขณะที่พ.ต.ท.วัศพล รัตนบำรุง สารวัตรเวร สน.ศาลาแดง กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ นายธวัชช์ จันทร์สุข อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/18 แขวงและเขตบางแค กทม. ได้เข้าแจ้งความในสภาพเบ้าตาขวาบวมปูด เขียวช้ำ ให้ดำเนินคดีกับกระเป๋ารถร่วมบริการสาย 123 เลขข้างรถ 26 วิ่งระหว่างฟาร์มจระเข้-สนามหลวง เหตุเกิดแยกทศกัณฐ์ ถ.พุทธมณฑลสาย 2 แขวงและเขตทวีวัฒนา

นายธวัชช์กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการบำนาญ ก่อนเกิดเหตุ เวลา 12.00 น. ได้ขึ้นรถร่วมสายดังกล่าว ตรงสนามกีฬาพณิชยการราชดำเนิน เพื่อจะไปทำธุระแถวสนามมวยราชดำเนิน เมื่อขึ้นมากระเป๋ารถเมล์ที่เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 ปี ก็เดินมาเก็บเงินค่ารถ 10 บาท แต่ตนมีบัตรข้าราชการบำนาญ ซึ่งสามารถจ่ายได้ครึ่งราคา จึงหยิบเหรียญ 5 บาทยื่นให้ กระเป๋ารถเมล์คนดังกล่าว ได้แสดงความไม่พอใจและต่อว่าอย่างรุนแรงต่อหน้าผู้โดยสารคนอื่นๆ ทั้งที่ตนพยายามชี้แจง ต่อมาคนขับซึ่งเป็นผู้ชายได้จอดรถ แล้วเดินเข้ามาผลักอกแล้วไล่ลงจากรถ เมื่อตนเดินลงบันไดก็ถูกกระเป๋าผู้หญิงใช้ส้นเท้าถีบเข้ามาที่เบ้าตาขวา อย่างแรง จนร่วงตกรถเมล์ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ก่อนเข้าแจ้งความที่สน.ศาลาแดง
ที่มา ข่าวสด

No comments: