Monday, October 13, 2008

สร้างอนุสรณ์ ปู่เย็น-คนสู้ชีวิต

การเสียชีวิตของนายเย็น แก้วมณี หรือ “ปู่เย็น” วัย 108 ปี “เฒ่าทระนงแห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี” ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว หลังจากที่พยาบาล รพ.พระจอมเกล้าเพชรบุรีที่เฝ้าดูแลอาการปู่เย็นมาตลอด พบปู่เย็นนอนหมดสติตัวแข็งทื่ออยู่ภายในเรือพระราชทานที่ลอยลำอยู่บริเวณใต้ เชิงสะพานลำไย แม่น้ำเพชรบุรี เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี จึงรีบนำส่ง รพ. พยายามปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่สามารถจะยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ปิดฉากชีวิตของชายชรายอดนักสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา เป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลังยึดถือปฏิบัติ โดยศพของปู่เย็นถูกนำไปทำพิธีทางศาสนาอิสลามที่มัสยิดมีอุลอิสลาม หมู่ 4 ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ในโอกาสเดียวกันนี้สมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินส่วนพระองค์จำนวน 2 แสนบาท เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีกรรมทางศาสนาด้วย

ที่มัสยิดมีอุลอิสลาม หมู่ 4 ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี หลังเจ้าหน้าที่อาบน้ำศพปู่เย็นแล้ว ได้ห่อศพด้วยผ้าสีขาววางไว้บนแคร่ไม้ มีโต๊ะอิหม่าม หรือผู้นำศาสนาร่วมกันทำพิธีละหมาดขอพรให้กับผู้เสียชีวิต โดยตลอดทั้งคืนของวันที่ 12 ต.ค. มีชาวไทยมุสลิมและไทยพุทธ ทั้งในเพชรบุรีและจังหวัดใกล้เคียงทยอยกันไปเคารพศพกว่า 1,000 คน นายไฟซอล โคลงเซ็น ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับนายไกร บุญบันดาล นายอำเภอบ้านแหลม นายเสน่ห์ แก้วระยับ นายก อบต.ท่าแร้ง และคณะกรรมการประจำมัสยิดมีอุล�อิสลาม นำเต็นท์มากางพร้อมทั้งจัดอาหารไว้บริการประชาชนผู้มาร่วมงานตลอดทั้งคืน

ต่อมาในตอนเช้าของวันที่ 13 ต.ค. มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน รวมทั้งนักเรียนคนตาบอดทยอยกันไปร่วมในพิธีฝังศพของปู่เย็นกว่า 3,000 คน ในจำนวนนี้ มีบุคคลที่มีชื่อเสียงรวมอยู่ด้วยหลายคน อาทิ นายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.เพชรบุรี นายประสงค์ พิทูรกิจจา ที่ปรึกษาเลขาธิการสำนักพระราชวัง นายปรีดา เชื้อผู้ดี รองเลขาธิการสำนักจุฬาราชมนตรี ในฐานะผู้แทนจุฬาราชมนตรี และนายฤทธิ์ลือชา คุ้มแพรวพรรณ ดารานักแสดง โดยศพของปู่เย็นถูกเคลื่อนออกจากมัสยิดไปยังกูโบร์ หรือสุสาน เป็นระยะทางยาวร่วม 1 กม. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดรถสายตรวจเปิดไฟนำขบวนศพ และคอยอำนวยความสะดวกการจราจรตลอดเส้นทาง เมื่อศพเคลื่อนถึง กูโบร์ผู้นำศาสนาร่วมกันทำพิธีสวดศพ จากนั้นนำศพใส่โลงปิดฝาหย่อนลงไปในหลุมที่ขุดเตรียมไว้ก่อนหน้าแล้ว มีขนาดกว้าง 80 เซนติเมตร ยาว 2 เมตร ในลักษณะศพนอนตะแคงหันหน้าไปทางทิศตะวันตก หันศีรษะไปทางทิศเหนือปลายเท้าชี้ไปทางทิศใต้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำดินมาฝังกลบแล้วตบแต่งหลุมศพด้วยดอกไม้ พร้อมกับใช้ไม้ขนาดยาว 1 เมตร ปักเหนือศีรษะและปลายเท้า เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงให้รู้ว่ามีการฝังศพบริเวณนั้น

นายเชาว์ จันทร์สุมาลัย คณะกรรมการมัสยิดมีอุลอิสลาม เผยว่า ต่อจากนี้ทางญาติของปู่เย็นและคณะกรรมการมัสยิดจะร่วมกันทำพิธีสวดบริเวณ หลุมฝังศพอีก 3 วัน 3 คืน โดยวันสุดท้ายเป็นการชุมนุมใหญ่ เพื่อสวดขอพรให้ปู่เย็นได้อยู่เป็นสุขในภพหน้าอีกด้วย ในขณะที่นายปรีดา เชื้อผู้ดี รองเลขาธิการสำนักจุฬาราช�มนตรี กล่าวเสริมว่า ปู่เย็นถือเป็นบุคคลสำคัญของจังหวัดเพชรบุรี สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีที่คนรุ่นหลังสามารถนำไปเป็นต้น แบบของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน

ด้านนายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.เพชรบุรี เปิดเผยถึงการจัดการทรัพย์สินของปู่เย็นว่า เรือลำแรกที่ปู่เย็นเคยใช้จะนำไปเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์วัฒนธรรมเพชรบุรีพร้อม ทำประวัติให้เยาวชนได้ศึกษา ส่วนเรือพระราชทานลำปัจจุบัน จะเก็บไว้จุดเดิมใต้เชิงสะพานลำไย ปรับปรุงภูมิทัศน์จัดเป็นอนุสรณ์สถานตำนานของปู่เย็น โดยรวบรวมอุปกรณ์จับปลาและเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเอาไว้ สำหรับเงินฝาก 214,918 บาท เงินสด 79,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น รวมเป็นเงินทั้งหมด 293,918 บาท จะมอบให้นางจุ๋มจิ๋ม แก้วมณี บุตรบุญธรรมของปู่เย็น โดยอัยการจังหวัดจะเป็นผู้ดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย

ที่มา ไทยรัฐ

No comments: