Sunday, October 12, 2008

นายกฯออกทีวีรวมการเฉพาะกิจ อ้อนพันธมิตรขอทำเนียบรัฐบาลคืน


นายกฯ ออกทีวีรวมการเฉพาะกิจ อ้อนพันธมิตรขอทำเนียบรัฐบาลคืน อ้างใช้จัดงานสันนิบาต-พระราชพิธี ตั้งอดีตรองประธานศาลฎีกาสอบเหตุสลายม็อบ "ชวรัตน์"คุมเยียวยา ผบ.ตร.ตั้งคณะทำงานหาข้อเท็จจริง ดึงรองอธิการบดีจุฬาฯเป็นหัวหน้า ให้รายงานผลเบื้องต้นใน 7 วัน "เฉลิม"ยันนายกฯไม่ลาออก-ยุบสภา ชี้การรับผิดชอบต้องมีขั้นตอน ปชป.ซัดผู้นำสองหน้า-เพชฌฆาตมั่วนิ่ม

@ ตร.ตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง

พล. ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชา การตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์เจ้าหน้า ที่ตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปิดล้อมรัฐสภา เพื่อกดดันไม่ให้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยมี นพ.เจษฎา แสงสุพรรณ รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหน้าคณะทำงาน และให้สรุปเบื้องต้นภายใน 7 วัน

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม มีรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาทได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 690/ 2551 ลงวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ตั้ง นพ.เจษฎาเป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ ส.ว.สรรหา พล.ต.อ. สมชาย มิลินทางกูร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ (รอง อ.ตร.) เป็นรองหัวหน้า พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พล.ท. คำนวณ เธียรประมุข เจ้ากรมสรรพาวุธ ทหารบก นายเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ รองประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายพนา ทองมีอาคม คณบดี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ พล.ต.ท.นพ.เลี้ยง หุยประเสริฐ อดีตนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ท.ณรงค์ กุลนิเทศ อดีตผู้บังคับการตำรวจวิทยาการ ภาค 2 พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยา ศาสตร์ตำรวจ และ พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นคณะทำงาน พล.ต.ต.บุญส่ง จีระเรือง รัตนา ผู้บังคับการกองนิติการ เป็นเลขานุการ พล.ต.ต.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้บังคับการกองวินัย พ.ต.อ.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ ผู้กำกับการวิทยาการเขต 11 กองวิทยาการ 1 สำนักงานนิติ วิทยาศาสตร์ตำรวจ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

@ ให้รายงานผลสรุปภายใน7วัน

ทั้ง นี้ คำสั่งระบุว่า ให้คณะทำงานดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน ทั้งจากภายในและภายนอก เกี่ยวกับการปฏิบัติในการควบคุมฝูงชน ในห้วงตั้งแต่วันที่ 6-7 ตุลาคมที่ผ่านมาว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และแผนปฏิบัติการ ที่กำหนดไว้หรือไม่อย่างไร และเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด โดยสามารถสั่งการทุกหน่วยในสังกัด ตร. หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน หรือบุคคลภายนอกมาให้ถ้อยคำ ข้อมูลข่าวสาร หรือจัดส่งเอกสาร พยานหลักฐานใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ สามารถแต่งตั้งคณะทำ งานย่อยได้

"อย่างไรก็ตาม ให้คณะทำงานให้ความสำคัญ และเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และรายงานผลการดำเนินการเบื้องต้นให้ทราบภายใน 7 วัน" คำสั่งระบุ

@ "สมชาย"ให้ตร.ทำตามศาลสั่ง

นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่หน้าบ้านพักหมู่บ้านเบเวอร์รี่ ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะจัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวงว่าไม่เกี่ยว เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องนั้น และได้พูดไปแล้วว่าไม่สนับสนุนให้ มีการวิวาทหรือปะทะกัน โดยจะไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ ทราบแล้ว และแจ้งให้ตำรวจปฏิบัติตามคำสั่งศาลให้เคร่งครัด

"ผมคิดว่าแต่ละคน มีจิตสำนึกว่าเราก็ประสบปัญหาเยอะ ต่อไปก็ยังมีปัญหาเศรษฐกิจอีก อะไรอีก เรื่องปากท้องชาวบ้านเรื่องความยากจน และก็เคยพูดว่าที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นก็ไม่ประสงค์ที่จะมาทำงานการ เมือง ไม่ใช่ว่ามาเล่นการเมือง หรือเอาแต่การเมือง เพราะมันทำให้เสียเวลา อยากจะใช้เวลาส่วนใหญ่หลังจากแถลงนโยบายแล้วไป แก้ปัญหาความยากจน ไปดูแลคนที่ลำบาก" นายสมชายกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำ นปช.ส่วนหนึ่งเป็น ส.ส.พรรคพลังประชาชน (พปช.) จะมีการห้ามปรามหรือไม่ ปรากฏว่านายสมชายไม่ตอบ คำถาม และหันหลังเดินกลับเข้าบ้านไปทันที

@ ตั้งรองปธ.ศาลฎีกาสอบสลายม็อบ

นาย สมชายให้สัมภาษณ์ภายหลังออกโทร ทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เมื่อเวลา 20.30 น. ว่า ขณะนี้รายชื่อประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นที่ชัดเจนแล้วคือ นาย ปรีชา พาณิชย์วงศ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา และอดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด ซึ่งใน วันที่ 13 ตุลาคม รายชื่อคณะกรรมการทั้งหมดจะเรียบร้อยและจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งนายปรีชานั้น รัฐบาล ไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องไปทาบทาม แต่มีผู้ใหญ่คนหนึ่งเป็นผู้ทาบทามให้ และนายปรีชาก็ เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องอะไรกับการเมืองเลย น่าจะได้รับความเชื่อถือ นอก จากนี้ นายปรีชาจะเป็นผู้เลือกคณะกรรมการการเองทั้งหมด รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้อง ส่วนคณะกรรมการชุดเยียวยานั้นจะมอบหมายให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกฯ เป็น ประธาน และจะมีตัวแทนกระทรวงต่างๆ มาเป็นกรรมการ

แหล่งข่าวจาก แกนนำ พปช.ที่ใกล้ชิดนายสมชายเปิดเผยว่า นายสมชายได้ทาบทามผู้ ที่เหมาะสมมารับตำแหน่งประธานคณะกรรม การสอบสวนข้อเท็จจริงของรัฐบาลแล้ว โดยเป็นอดีตผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งที่ผ่านมามัก ไม่ปรากฏชื่อเป็นข่าวต่อสื่อมวลชน โดยภาย ในสัปดาห์หน้านายสมชายจะเป็นผู้เปิดเผยรายชื่อด้วยตัวเอง

@ "เฉลิม"ยันไม่"ยุบสภา-ลาออก"

ร. ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ช่วยหาเสียงให้นายแสวง ฤกษ์จรัล ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 11 พปช. ที่ซอยไชยฉิมพลี เขตภาษีเจริญว่า เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ยุบสภาหรือลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ตามข้อเรียกร้องของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะถึงยุบสภาหรือลาออกไป ก็เป็นไปได้ว่า พปช.อาจกลับมาเป็นรัฐบาลอีก แล้วพรรคประชาธิปัตย์รวมถึงฝ่ายต่อต้านก็จะไม่ยอม ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คือการตั้งกรรมการขึ้นมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ขอยืนยันในฐานะนายตำรวจเก่าว่า ไม่มีตำรวจคนไหนคิดร้ายต่อประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากความผิดพลาด บกพร่อง หรืออื่นๆ ซึ่งต้องพิสูจน์ทราบ ความจริงจึงจะปรากฏ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุดังกล่าวเพียงพอแล้วหรือยัง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐบาลก็กำลังพิสูจน์ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จึงได้ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมา 2 ชุด หากผลการ สืบสวนข้อเท็จจริงปรากฏว่าใครทำผิด ค่อย มาดูใจว่ารัฐบาลรับผิดชอบหรือไม่ มันต้อง ทำเป็นขั้นเป็นตอน ที่ผ่านมามีแต่การคาดการณ์ ยังไม่มีคนรู้ข้อเท็จจริง

@ ปัดสั่งสลายม็อบพันธมิตร

ส่วน กระแสข่าวที่อดีตนายตำรวจเก่าในรัฐบาลเป็นคนสั่งการให้สลายการชุมนุมนั้น ร.ต.อ.เฉลิมยืนยันว่า ไม่น่าจะหมายถึงตน เพราะอยู่กระทรวงสาธารณสุข แต่ยืนยันว่า ได้เสนอให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาสถานการณ์ใน ที่ประชุม ครม.จริง ทั้งนี้ เห็นว่าใน ครม.มี คนเก่งกว่าตนมากมาย มีอดีตอธิบดีกรมตำรวจถึง 2 คน คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาห กรรม และพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงหมาดไทย ส่วน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ก็มีประสบการณ์สูง ยืนยันว่าเรื่องนั้นตนไม่เกี่ยว ข้อง เพราะขณะนี้เป็นแค่หมอเหลิม

"ส่วนที่กองทัพออกมาถามหาความรับผิดชอบ จากรัฐบาล ผมแค่คิดว่า อะไรก็ตาม ต้องเอาคนกลางมาพิสูจน์ และไม่ขอวิจารณ์ว่า ผบ.เหล่าทัพกำลังบีบให้นายกฯลาออกหรือไม่ ส่วนที่ พล.อ.ชวลิตออกมาเรียกร้อง ให้ พล.อ.อนุพงษ์ปฏิวัติ ก็ไม่รู้ว่าแกคิดอะไร เพราะยังไม่ได้คุยกัน" ร.ต.อ. เฉลิมกล่าว

@ ปชป.ซัดนายกฯตีสองหน้า

นพ. บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า พฤติกรรมที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรี ได้ทำให้บ้านเมืองอยู่ในจุดเสี่ยงต่อความรุนแรง และเสี่ยงต่อการสะดุดลงของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขอีกครั้ง สภาวะนี้เกิดขึ้นเพราะนายสมชายปฏิเสธการแสดงความรับผิดชอบต่อการ ใช้ความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยจนถึงบัดนี้ ยังไม่เคยได้ยินคำว่าเสียใจหรือขอโทษจากปากของนายกรัฐมนตรี

"นอกจาก ไม่ขอโทษแล้ว ก็ใช้ยุทธศาสตร์ตีสองหน้า คือ ออกข่าวว่า ไม่อยากให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. (แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ) แต่ไม่ห้ามนายณัฐวุฒิไปร่วมงานความจริง วันนี้ ซึ่งมี ส.ส.พลังประชาชน และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยร่วมเวทีด้วย" นพ.บุรณัชย์กล่าว และว่า ที่นายกฯ พูดว่า หากเรื่องจบ มีการตั้ง ส.ส.ร.3 ยินดี จะยุบสภานั้น น่าจะเป็นแค่การถ่วงเวลาซื้อเวลาต่อไป

@ ตั้งฉายา"เพชฌฆาตมั่วนิ่ม"

ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกฯต้อง แสดงความรับผิดชอบที่ใช้ความรุนแรงใน การสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดย 1.แสดงความรับผิดชอบต่อผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บ 2.แสดงความรับผิดชอบต่อวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล และ 3.แสดงความรับผิดชอบต่อวิกฤตการเมืองในระบบประชาธิปไตย ที่ทำให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เปลี่ยน ท่าทีจากที่เคยปฏิเสธมาตลอดว่า จะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารอย่างเด็ดขาด แต่ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์กลับระบุว่า ไม่มั่นใจว่าจะไม่รัฐประหาร

"นายกฯต้อง ตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญ ก่อนที่วิกฤตจะบานปลายออกไป ขอให้นายกฯเร่งยุติวิกฤตทั้ง 3 ด้านของประเทศไทย ก่อนที่จะทำลายตัวนายกฯเอง และพวกเราทุกคน จนยากแก่การเยียวยาแก้ไขได้" นายองอาจกล่าว และว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ พฤติกรรมของนายกฯถือเป็นพฤติกรรมเพชฌฆาตมั่วนิ่ม เพราะเป็นส่วนสำคัญให้เกิดการทำร้ายประชาชน แต่กลับหาทางมั่วนิ่ม ตั้งคณะกรรมการอิสระ เพื่อหวังจะมาช่วยบรรเทาปัญหาได้ รวมทั้งปล่อยลิ่วล้อโยนความผิดให้กับผู้ชุมนุม การกระทำทั้งหมดของนายกฯจึงถือตรงข้ามกับสิ่งที่สร้างภาพ ไว้ว่าเป็นคนนุ่มนวล

@ ป.ป.ช.เล็งสอบนายกฯสั่งลุยม็อบ

นาย วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า การประชุมวันที่ 14 ตุลาคมนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะรายงานกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นเรื่องให้กับ ป.ป.ช.ไต่สวนนายกรัฐมนตรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงหลายคน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีใช้กำลัง เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วยวิธีรุนแรง ให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้รับทราบ ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวมีรายละเอียดเพียงพอ ก็อาจจะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ทันที ซึ่ง ป.ป.ช.จะเร่งไต่สวนคดีนี้โดยเร็วเนื่องจากอยู่ในความสนใจของประชาชน และเป็นเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกลางเมือง

"หากมีการตั้งอนุกรรมการ ไต่สวนจริง ก็ต้องเรียกข้อมูลและมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีการหารือกันในวันที่ 6 ตุลาคมมา พิจารณาด้วย เพื่อดูว่านายกฯมีการสั่งการอย่างไร ก่อนที่จะเกิดการสลายม็อบในวันรุ่งขึ้น" นายวิชากล่าว

@ "สมชาย"ออกทีวีขอทำเนียบคืน อ้างเจ้าภาพประชุมผู้นำอาเซียน

นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกรายการสดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจประเทศไทย เพื่อชี้แจงสถานการณ์บ้านเมือง เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 12 ตุลาคม ใช้เวลา 11 นาที ว่า บ้านเมืองของเราทุกวันนี้มีความขัดแย้งทางความคิดกันมากมาย ความขัดแย้งทางความคิดสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ทุกวันนี้มีการประท้วงชุมนุมกันมาก บางครั้งเกินกรอบกฎหมายที่กำหนดไว้ ผมคิดว่าในการทำการแต่ละอย่างไม่ว่าการประท้วง ชุมนุมต่างๆ ก็ตาม อยากจะขอความกรุณาว่า ให้อยู่ในขอบกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อจะไม่ละเมิดสิทธิของประชาชนคนอื่น รัฐบาลอยากกราบเรียนต่อพี่น้องประชาชนว่ารัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของพี่ น้องประชาชน รัฐบาลจำเป็นจะต้องรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน รับผิดชอบต่อรัฐสภา รัฐบาลยึดมั่นในการปกครองระบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดหลักกฎหมายในการอยู่ร่วมกัน

เหตุการณ์ที่ผ่านมา 2-3 วันที่แล้ว ผมเองมีความเสียใจ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เพื่อให้เกิคดวามชัดเจนในประชาชนพี่น้องร่วมชาติของ เรา ผมได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ชุดแรก คือ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ในเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อให้ความกระจ่างชัด สามารถนำเรื่องราวต่างๆ มารายงานต่อประชาชน ได้ทราบชัดเจนว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานนัก จะสามารถรายงานข้อเท็จจริงต่อพี่น้องประชาชนได้ ส่วนชุดสองคณะกรรมการเยียวยาความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเกิดขึ้นต่อบุคคลใด หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ตาม หรือจะเกิดขึ้นจากทรัพย์สินใดๆ ก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้จะดูในภาพรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ แม้จะเกิดก่อนวันที่ 7 ตุลาคม ก็ตาม เมื่อได้ผลอย่างไรแล้วก็ให้ดำเนินการไปเยียวยา เพื่อให้ได้เกิดลักลั่นซึ่งกันและกัน

ประชาชนที่เคารพ เวลานี้เรามีปัญหามากมาย ไม่ใช่เฉพาะปัญหาความขัดแย้งทางความคิด ไม่เฉพาะปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมากมายในขณะนี้ แต่เรามีปัญหาที่น่ากลัวกว่านั้น กำลังจะเกิดขึ้น โดยปี พ.ศ.2540 เราเผชิญภัยทางเศรษฐกิจมาครั้งหนึ่งแล้ว คราวนี้มีทีท่าว่าจะเกิดปัญหาในระบบเศรษฐกิจโลก แม้เหตุการณ์จะเกิดที่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือยุโรป แต่เหตุเหล่านั้นที่เรียกว่า วิกฤตสถาบันการทางการเงินของโลก ก็ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาและการขาดความเชื่อมั่นอย่างยิ่งใหญ่

ผมคิด ว่าเอเชียของเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะเอเชียถือเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่และสำคัญของโลก เป็นตลาดสำคัญของสินค้าของไทย มีผู้คนที่อยู่ในเอเชียและมาลงทุนในบ้านก็มีมาก จะมีผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดสินค้า และการท่องเที่ยวการบริการ การส่งออก แม้แต่ตลาดหลักทรัพย์ การลงทุน ธุรกิจขนาดย่อม ขนาดเล็ก หรือแม้กระทั่งสินค้าการเกษตร จะถูกกระทบไปหมด เรามีความจำเป็นต้องมาเตรียมการ รองรับสถานการณ์ช่วงนี้ให้ดี ถ้าหากไม่เตรียมการเสียแต่เนิ่นๆ จะกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ จะเกิดผลเสียหายและฐานะเศรษฐกิจของประเทศเรา

นอกจากนี้ผมคิดว่า เรายังมีงานสำคัญคือพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งงานนี้รัฐบาลได้เตรียมการค่อนข้างนานแล้ว ดำเนินการสร้างพระเมรุ ซ่อมราชรถ และราชยานต่างๆ ซึ่งขณะนี้ราชรถ และราชยานเสร็จ 100% ส่วนพระเมรุ แล้วเสร็จไปกว่า 90% คิดว่า เรามีความจำเป็นต้องที่ร่วมมือไม้ร่วมมือในการถวายความจงรักภักดีในครั้งนี้ อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้สมพระเกียรติอย่างที่สุด ต่อจากนั้นก็จะเป็นงานเฉลิมพระชนมพรรษาที่เรารอคอยกันมาทุกปี เพื่อจะได้ถวายพระพรและถวายความจงรักภักดี การประชุมผู้นำระดับอาเซียนที่จะเกิดขึ้นกลางเดือนธันวาคม และปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพ เพราะเป็นประธานของอาเซียน

เพราะฉะนั้นการจัดงานครั้งนี้ จึงถือเป็นศักดิ์ศรีและเกียรติยศของไทยที่จะต้องอวด

ผม ไม่อยากให้เราขัดแย้งกัน เพราะเป็นสิ่งสำคัญต้องแสดงออกต่อชาวโลกว่าเรามีความพร้อม มีความสามัคคี มีศักยภาพพร้อมที่จะต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองได้อย่างดีที่สุด เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากให้พี่น้องประชาชนได้มีส่วนร่วม ทั้งหมดที่กล่าวมานี้

เพราะ ฉะนั้นการจะให้บ้านเมืองมีความสง่าสวยงาม อยากให้ท่านผู้ชุมนุมคืนพื้นที่และคืนทำเนียบที่จะใช้จัดงานสันนิบาต ให้สวยงาม อยากกราบเรียนต่อพี่น้องประชาชนว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เป็นผลสำคัญ ที่จะเชิดชูเกียรติยศชื่อเสียงของเรา

ผม อยากจะขอเรียนว่าปัจจุบันนี้มีข่าวลือต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งบางอย่างไม่ได้เป็นความจริง ผมจึงอยากขอร้องพี่น้องประชาชนการรับฟังข้อมูลบางอย่างโปรดใช้วิจารณญาณให้ ดีมีเหตุผลในการรับฟัง เพื่อให้พวกเราต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ซึ่งกระพือข่าว

ผม อยากจะกราบเรียนพี่น้องประชาชนปัจจุบันนี้มีหลายฝ่ายพยายามเรียกร้องว่า รัฐบาลควรจะยุบสภา หรือนายกฯควรจะต้องลาออกจากตำแหน่ง ขอกราบเรียนว่า ผมไม่ได้ติดยึดต่อตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ทั้งสิ้น หากการทำเช่นนั้นสามารถแก้ปัญหาได้จริง แต่การทำเช่นนั้นสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ ทั้งอาจกระทบต่อภารกิจที่เราต้องร่วมทำหลายอย่าง ผมคิดว่าควรจะให้เห็นทางออกที่ชัดเจนเสียก่อน ผมสามารถที่จะตัดสินใจได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจเราเลย การที่รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีการร่างรัฐธรรมนูญ และมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร. 3 อย่างนี้ เป็นแนวทางที่ต้องปรับปรุงรัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับ ผมคิดว่า ถ้าประชาชนทุกท่าน ทุกฝ่าย ทุกคนพร้อมใจกัน ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ผมพร้อมจะอำลาไป ไม่มีปัญหา แต่อยากจะเรียนว่าเราต้องหาทางออกให้เจอ และนำไปสู่ความสงบสุขที่เราจะอยู่ร่วมกันได้ ในยามนี้เราต้องหันหน้าเข้าหากันมาแก้ปัญหาและพร้อมที่จะปรองดอง เพื่อให้เกิดความสงบสุข เพื่อเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างอยู่เย็นเป็นสุข ภายใต้ร่มพระบารมีของพระเจ้าอยู่หัว

นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังออกรายการโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ถึงกรณีที่จะเจรจากับพันธมิตรเพื่อให้ออกจากทำเนียบฯว่า ทำเนียบฯยังต้องจัดงานสำคัญหลายอย่าง เรากำลังช่วยกันคิดอยู่ว่า จะให้กลุ่มพันธมิตรคืนทำเนียบอย่างไร หรืออาจจะต้องขอให้หยุดความขัดแย้งไว้ระยะหนึ่ง เสร็จสิ้นงานแล้วค่อยกลับมาขัดแย้งกันใหม่ก็ยังดีกว่า หวังว่าหลังจากนี้สถานการณ์จะดีขึ้น เพราะรัฐบาลมีหลายงานที่จะต้องดำเนินการ สำหรับผู้ใหญ่ที่จะมาเป็นตัวแทนเจรจากับพันธมิตรนั้น รัฐบาลกำลังหาอยู่ แต่ด้วยความขัดแย้งที่มีทำให้บุคคลต่าง ๆ กังวล ทั้งที่อยากจะมาช่วย หากจะให้ผมไปเจรจาเองก็ไม่มีปัญหา แต่ต้องพูดกันด้วยเหตุผลและเข้าใจ
ที่มา มติชน

No comments: