Monday, October 13, 2008

กลุ่ม 40 ส.ว. หวั่นซ้ำรอย 6 ต.ค.ใช้ นปช.ปะทะพันธมิตรฯ


วันนี้ (13 ต.ค.) ที่รัฐสภา กลุ่ม 40 ส.ว.นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา แถลงภายหลังการหารือ โดย นายประสาร กล่าวว่า สังคมไทยกำลังวิตกอย่างยิ่งต่อการเผชิญหน้าที่กำลังนำไปสู่ความรุนแรงจนสุด จะเยียวยา เห็นได้จากรัฐบาลกำลังใช้กลุ่ม นปช.เข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้ง คล้ายกรณี 6 ตุลา 19 ที่ใช้กลุ่มกระทิงแดง และ นวพล เข้ามาปฏิบัติการความรุนแรง ที่ทำให้เกิดการนองเลือด ดังนั้น กลุ่ม 40 ส.ว.จึงมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบกรณีความรุนแรง 7ตุลาฯ โดยมี น.ส.รสนา เป็นประธาน นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานที่ปรึกษา พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นรองประธานที่ปรึกษา นพ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นเลขานุการ รวมทั้งจะเชิญบุคคลที่สังคมให้ความเชื่อถือเข้ามาร่วมด้วย

นายประสาร กล่าวต่อว่า กลุ่ม 40 ส.ว.เห็นว่า การเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 50 โดยรัฐบาลและ คปพร.โดยเฉพาะฉบับของ คปพร.ถือเป็นชนวนเหตุแห่งปัญหาทั้งปวง และการเสนอ ส.ส.ร.3 เป็นหลุมพราง เพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามแนวทางของรัฐบาล ทั้งที่รัฐบาลได้ขาดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นต้นเหตุความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค.นอกจากนี้ ทางกลุ่ม 40 ส.ว.จะติดตามตรวจสอบการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่อาจมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้การแถลงนโยบายของรัฐบาลไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และคำสั่งใดๆ ที่เกิดขึ้นโดย ครม.เช่น คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงที่ผ่านมาจะเป็นโมฆะไปด้วย อย่างไรก็ตาม เห็นว่ารัฐบาลจะต้องยุติความรุนแรงทันที ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ 7 ต.ค.ด้วยการลงโทษผู้สั่งการและผู้ปฏิบัติการ พร้อมทั้งเยียวยาผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง รวมทั้งต้องเลิกล้มความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

น.ส.รสนา กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องจับตารัฐบาลชุดนี้ เพราะกลุ่ม 40 ส.ว.เห็นว่า ไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป หรือจะมาตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ 7 ต.ค.หรือการจะตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการที่มีอดีตรองประธานศาลฎีกาเป็นประธานสอบสวน เหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.น.ส.รสนา กล่าวว่า ไม่ขอออกความเห็นเรื่องตัวบุคคล แต่เห็นว่าตั้ง พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ ส.ว.สรรหา เข้าไปเป็นกรรมการชุดดังกล่าวด้วยนั้น ไม่ควรตั้ง เพราะไม่เหมาะสม แต่ความจริงรัฐบาลในฐานะเป็นผู้ก่อการคงถูกตั้งคำถามเรื่องความชอบธรรมว่าทำ ผิดเองแล้วตั้งกรรมการสอบตัวเอง รู้สึกเป็นห่วงกรณีที่มี ส.ส.พลังประชาชน ไปขึ้นเวที นปช.เพราะเกรงว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะ ส.ส.พลังประชาชน ขึ้นเวที นปช.และยังมีการฝึกอาวุธให้กลุ่มประชาชนเหล่านี้ รัฐบาลต้องหยุดยั้งความรุนแรงไม่ใช้กลุ่มประชาชนเหล่านี้เป็นเครื่องมือ ทำให้ประชาชน 2 ฝ่ายประทะ เพราะเหตุการณ์กำลังซ้ำรอย 6 ต.ค.19

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านได้ถอนตัวจากแนวทางแก้ปัญหาชาติโดย 4 ฝ่ายแล้ว วุฒิสภาควรพิจารณาอย่างไร น.ส.รสนา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานวุฒิสภา กลุ่ม 40 ส.ว.มองว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะดำเนินการใดๆ แล้ว การที่รัฐบาลลุกลี้ลุกลนว่าจะลาออกหลังมีการตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว เป็นการอำพรางหวังจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อคการยุบพรรคและคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขอร้องนายกฯว่าอย่าประเทศชาติเป็นตัวประกัน อย่ามาข่มขู่อย่างนี้ เพราะประเทศชาติไม่ใช่ของใคร ตอนนี้มันเป็นวิกฤติการณ์ ไม่ใช่การหาแนวทางการแก้ปัญหาแล้ว ข้อเสนอแบบนี้ไม่ใช่หวังดีต่อประเทศ แต่อาศัยความวุ่นวายของประเทศแก้ปัญหาให้ตัวเอง ขอให้สังคมช่วยจับตามอง ซึ่ง กลุ่ม 40 ส.ว.จะช่วยกันจับตามอง

น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องทหารว่าทำไมถึงเงียบกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะเป็นคนเพชรบุรี และอยู่อำเภอเดียวกันกับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ขอกราบวิงวอนให้ท่านแสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากกว่านี้เพื่อให้ประชาชนได้ สบายใจ ไม่ใช่ตนไปกดดัน พล.อ.อนุพงษ์ เพื่อให้ทหารออกมาปฏิวัติ แต่ทหารต้องพิจารณาดูว่าในสถานการณ์เช่นนี้ควรแสดงบทบาทและจุดยืนที่จะทำให้ บ้านเมืองสงบสุข รอมชอม สันติได้อย่างไร

No comments: